วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

boyshowข่าวการเมือง

เตะ"ทวี" ขึ้นรองปลัด

"ธาริต"ดีเอสไอ อธิบดีคุกเข้ากรุ มาร�คอึ้งพบลิ้ม




ก๊วนนายกฯ-นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ พร้อมด้วยนายศิริโชค โสภา เลขานุการส่วนตัว และนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เดินจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ไปประชุมครม. เมื่อวันที่ 29 ก.ย.

ครม. มีมติอนุมัติเตะ "ทวี สอดส่อง" พ้นอธิบดี "ดีเอสไอ" โยก "ธาริต เพ็งดิษฐ์" จากเลขาฯ ป.ป.ท.คุมแทน "นัทธี จิตสว่าง" เข้ากรุเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยธ. ให้ "ชาติชาย สุทธิกลม" ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดมาแทน ปลัดยธ.แจงโยกย้ายตามกลไกภาพรวมตามนโยบายรมว.ยุติธรรม ไม่เกี่ยวการเมือง

เมื่อ วันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ประชุมครม.อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง 8 รายของกระทรวงยุติธรรม ดังนี้ 1.นางชูจิรา กองแก้ว รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมบังคับคดี 2.นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมคุมประพฤติ 3.พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นรองปลัดกระทรวง 4.นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 5.นายชาตรี โชไชย ผอ.สำนักงานกิจการยุติธรรม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง 6.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 7.นายภิญโญ ทองชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นเลขาธิการป.ป.ท. 8.นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์

รายงาน ข่าวแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เมื่อกระทรวงยุติธรรมเสนอย้ายพ.ต.อ.ทวีเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายนัทธี จิตสว่าง จากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ที่ประชุมไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ใดๆ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว. ยุติธรรม ก็ไม่ได้ให้ความเห็นเป็นพิเศษ

นาย อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการย้ายพ.ต.อ.ทวี อธิบดีดีเอสไอ ว่า เรื่องนี้ต้องไปถามรมว.ยุติธรรม เข้าใจว่าเป็นการโยกย้ายปกติประจำปี ผู้สื่อข่าวถามว่าเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายกฯได้พบกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ทำสีหน้างง ก่อนย้อนถามว่าเกี่ยวข้องกับใคร เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่านายสนธิ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ยังไงหรือครับ ใครไปพบใคร"

เมื่อถามว่าเป็นเพราะพ.ต.อ.ทวีทำงานไม่สนองนโยบายใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็น การโยกย้ายปกติประจำปี เรื่องนี้ต้องถามรมว. ยุติธรรม

ที่ กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การย้ายพ.ต.อ.ทวีเป็นการปรับกลไกภาพรวมตามนโยบายของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว. ยุติธรรม แม้ว่าพ.ต.อ.ทวีจะมีความสามารถในด้านการสอบสวนคดีโดยมีผลงานในคดีสำคัญหลาย คดี ซึ่งการย้ายมาเป็นรองปลัดกระทรวงเพื่อให้ดูแลภารกิจในจังหวัดชายแดนภาค ใต้ แทนนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวง อย่างไรก็ตาม การย้ายพ.ต.อ.ทวีครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่มีความเกี่ยวพันกับพรรคประ ชาธิปัตย์ เนื่องการสอบสวนในดีเอสไอทำงานในรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคณะพนักงานสอบสวนได้กลางคัน ส่วนสาเหตุที่ย้ายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ไปทำงานในดีเอสไอ เพราะนายธาริตมีส่วนร่วมยกร่างกฎหมายสอบสวนคดีพิเศษมาตั้งแต่ต้น เชื่อว่าจะสามารถเข้าไปปรับกลไกในองค์กร

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกรมราชทัณฑ์ รัฐบาลมีนโยบายปราบปรามยาเสพติด แต่ยังมีการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง รัฐมนตรีจึงต้องการผู้บริหารที่มีประสบการณ์เข้ามาแก้ปัญหายาเสพติด แต่การทำงานโดยผู้บริหารเพียงคนเดียวคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยนายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นทั้งผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญ จึงเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหายาเสพติดในเรือนจำได้ สำหรับนายนัทธีที่ถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการไม่ใช่เป็นการลงโทษ ส่วนตำแหน่งรองปลัดกระทรวงและผอ.สำนักกิจการยุติธรรม ที่ยังว่างอยู่นั้น นายพีระพันธุ์จะพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมต่อไป

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาฯ ป.ป.ท. เผยภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เคยเป็นรองอธิบดีดีเอสไอมาถึง 5 ปี จึงไม่รู้สึกหนักใจที่ได้รับแต่งตั้งให้กลับไปดีเอสไออีกครั้ง และจะตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ไม่กังวลต่อกระแสการต่อต้านภายในดีเอสไอ รวมถึงการออกใบปลิวโจมตีบทบาทการบริหารในป.ป.ท. ของตน และโจมตีไปถึงภรรยาของตนที่ทำงานในดีเอสไอ โดยการโยกย้ายในดีเอสไอจะทำเท่าที่จำเป็นและเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ

ผู้ สื่อข่าวถามถึงกรณีการเมืองที่มักแทรกแซงการทำงานในดีเอสไอทำให้มีการโยก ย้ายบ่อยครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล นายธาริต กล่าวว่า เป็นธรรมดาที่หน่วยงานให้คุณให้โทษมักจะถูกแทรกแซง แต่เชื่อว่าโครงสร้างการทำงานแบบคณะพนักงานสอบสวนของดีเอสไอจะเป็นภูมิคุ้ม กันที่ดี รวมทั้งหากผู้บริหารหน่วยงานไม่เอนเอียงไปทางการเมืองสังคมจะเป็นภูมิคุ้ม กันให้ การเมืองไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย ข้าราชการประจำต้องทำงานตามนโยบาย โดยจะต้องมีระยะห่างที่เหมาะสม หากข้าราชการวางตัวได้ดีก็จะสร้างความมั่นใจให้กับคนในสังคม

สำหรับ ประวัตินายธาริตเริ่มรับราชการที่สำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อปี 2533 จากนั้นในปี 2544-2546 ขณะดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำกรม ได้รับการทาบทามให้ช่วยราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นทีมงานของนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษานายกฯ สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่อมาได้ย้ายมาเป็นรองอธิบดีดีเอสไอนาน 5 ปี จึงได้รับการเสนอชื่อเป็นเลขาธิการป.ป.ท.

ด้านนายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไรที่ถูกย้ายมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง เพราะพร้อมจะทำงานทุกตำแหน่ง ส่วนสาเหตุที่ถูกย้ายคาดว่า อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาทำงานสนองนโยบายได้ไม่เต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ตนเก็บของใช้ส่วนตัวภายในห้องทำงานที่กรมราชทัณฑ์เรียบร้อย แล้ว

สำหรับพ.ต.อ.ทวีและนายนัทธีถูกจับตาจะโยกย้ายหลังเปลี่ยนแปลง รัฐบาล เพราะถูกมองว่าเป็นขั้วอำนาจเก่าและทำงานไม่สนองนโยบาย ซึ่งสอดรับกับทวิตเตอร์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่โพสต์ข้อความระบุว่าใน สัปดาห์นี้จะมีคนที่เคยทำงานใกล้ชิดถูกโยกย้าย 2 ตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้มีความพยายามจะย้ายพ.ต.อ.ทวีมาเป็นผู้ตรวจราชการ แต่ในที่สุดก่อนเริ่มประชุมครม.มีการสับเปลี่ยนรายชื่อในบัญชีแต่งตั้งโยก ย้ายภายในกระทรวงยุติธรรมอีกครั้ง โดยนายนัทธีถูกส่งมาเข้ากรุผู้ตรวจราชการแทน เพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจที่มีการสั่งซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำ อีกทั้งยังมีปัญหาความไม่พอใจหลังรัฐบาลเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูลข้าวใน เรือนจำทั่วประเทศ โดยตัดลดค่าอาหารนักโทษและเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อจากการเปิดประมูลอย่างเสรี มาใช้วิธีซื้อตรงจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกรมราชทัณฑ์โต้แย้งว่าอาจมีปัญหาการจัดส่งข้าวไม่ทันกำหนด เพราะหน่วยงานของรัฐไม่มีสต็อกข้าว สุดท้ายก็จะหนีไม่พ้นวงจรการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้เป็นตัวแทนส่งข้าวให้เรือน จำ

ในส่วนของอธิบดีกรมบังคับคดีที่ก่อนหน้านี้ มีแคนดิเดตหลายคน ได้แก่ นางลางน้อย ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมบังคับคดี นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวง นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ รองปลัดกระทรวง แต่สุดท้ายนางชูจิรา กองแก้ว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กลับได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งทั้งที่นางชูจิราเป็นผู้ที่มีความสนิทสนมกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี สำหรับตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ของพล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ ซึ่งเป็นอีก 1 ตำแหน่งที่ถูกมองว่าจะถูกโยกย้ายเข้ามาเป็นรองปลัดกระทรวงหรือผู้ตรวจราชการ กระทรวง แต่ในที่สุดกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ขณะนี้มีตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรมยังว่างอีก 1 ตำแหน่ง

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า การแต่งตั้งนางชูจิราเป็นอธิบดีกรมบังคับคดี สร้างความประหลาดใจให้ข้าราชการทุกระดับในกระทรวงยุติธรรม เนื่อง จากเป็นตำแหน่งที่พลิกความคาดหมาย เพราะนางชูจิรามีความใกล้ชิดขั้วอำนาจเก่า เคยไปช่วยงานให้กับนายสมชายทั้งที่กระทรวงศึกษาธิการและทำเนียบรัฐบาล โดยรายชื่อของนางชูจิราไม่เคยติดอยู่ในโผโยกย้ายก่อนหน้าแต่กลับถูกใส่ชื่อ เข้าไปก่อนที่การประชุมครม.จะเริ่มต้นขึ้น

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอแต่งตั้งโยกย้ายดังนี้ นายสิงห์ทอง ชินวรรังสี ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง นายจิรากร โกศัยเสวี รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายวิทย์ ประทักษ์ใจ เป็นผอ.สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง รับเงินเดือน 108,810 บาท แทนนายสายัณห์ เกี่ยวข้องที่พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากปฏิบัติงานครบกำหนดตามสัญญาจ้าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2552 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ครม.ยังอนุมัติตามที่สำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอแต่งตั้งนายสุวัฒน์ วาณีสุบุตร ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน และนายปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน เป็นรองเลขาธิการสศช. ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นต้นไป อนุมัติตามที่กระทรวงไอซีที เสนอแต่งตั้งนางจิราวรรณ บุญเพิ่ม รองผอ.สำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นผอ.สำนักงานสถิติแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นต้นไป

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังประชุมครม.ว่า ครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสังกัดศธ.ระดับ 10 จำนวน 14 ราย 1.นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา ผู้ตรวจราชการเป็นรองปลัดศธ.2.นายนิวัตร นาคะเวช ผู้ตรวจราชการเป็นรองปลัดศธ.3.นายสุนันท์ เทพศรี ผู้ตรวจราชการ เป็นรองเลขาธิ การคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) 4.นายประดิษฐ์ ระสิตานนท์ ผู้ตรวจราชการเป็นรองเลขาธิการกอศ.5.นายอกนิษฐ์ คลังแสง รองเลขาธิการกอศ. เป็นผู้ตรวจราชการ 6.นาย นพพร สุวรรณรุจิ เป็นรองเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) 7.นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เป็นรองเลขาธิการสกศ.8.นายสรรค์ วรอินทร์ เป็นรองเลขาธิการกกอ. 9.นางศิริพร กิจเกื้อกูล เป็นรองเลขาธิการกอศ. 10.นายพันธุ์ศักดิ์ โรจนากาศ เป็นผู้ตรวจราชการ 11.นางแน่งน้อย พัวพัฒนกุล เป็นผู้ตรวจราชการศธ. 12.นางสุทธศรี วงษ์สมาน เป็นผู้ตรวจราชการศธ. 13.นายกิจสุวัฒน์ หงส์เจริญ เป็น ผู้ตรวจราชการศธ. และ 14.นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เป็นผู้ตรวจราชการศธ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น